หลังจากที่เราได้เงินจากทางเว็บไซต์ Stock Photo ต่างๆ แล้วคราวนี้เราจะเสียภาษีในไทยอย่างไรกันบ้าง งานออนไลน์ได้มาเท่าไรอย่างไรแล้วก็ต้องเสียภาษี
ซึ่งการเสียภาษีนั้นเป็นหน้าที่ของพลเมืองไทย แต่เราจะเสียภาษีอย่างไร มาตามอ่านกันดูนะครับ จะได้ไม่ถูกเรียกเก็บย้อนหลังและโดนค่าปรับนะครับ

1.รายได้จาก Stock Photo ต้องเสียภาษีหรือไม่

ไม่ว่าจะได้เงินจากการขายภาพเท่าไร เราก็ต้องยื่นภาษีนะครับ ไม่งั้นจะถือว่าเราเจตนาหลีกเลี่ยงภาษี ซึ่งจะโดนลงโทษตามข้อกำหนดของสรรพากร

2.รายได้จาก Stock Photo เสียภาษีในประเภทไหน

รายได้จาก Stock Photo เป็นรายได้ใน 40(3) อยู่ในหมวด “ค่าแห่งลิขสิทธิ์” ซึ่งถ้าเรายื่นเอกสารหลักฐานให้สรรพากร ต้องระวังด้วยนะครับว่าไม่ให้เค้าเอาเงินไปรวมใน 40(2) เพราะเราจะเสียผลประโยชน์ เพราะเงินได้ตาม 40(3) เราจะสามารถหักลดหย่อนได้ 50% แต่ไม่เกิน 100,000 บาท (ตามพระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 629) พ.ศ.2560)

ส่วนรายได้จากการขายของออนไลน์ หรือรายได้อื่นๆจะอยู่ใน 40(8) สามารถอ่านเพิ่มเติมจาก http://www.rd.go.th/publish/6052.0.html ซึ่งการหักค่าใช้จ่ายจะต่างกันครับ (ตามพระราชกฤษฎีกา พ.ศ.2560 เงินได้ใน 40(8) จะสามารถหักค่าใช้จ่ายแบบเหมาเหลือเพียง 60% สำหรับทุกรูปแบบเงินได้ครับ)

อ้างอิง http://www.rd.go.th/publish/556.0.html
อ้างอิง http://www.rd.go.th/publish/43068.0.html

3.จะคิดภาษีอย่างไรบ้าง

การคิดภาษี ที่เป็นเงินได้จากต่างประเทศ เพราะการทำ Stock Photo เป็นหน้าที่การงานในต่างประเทศ เงินได้หรือทรัพย์สินมาจากต่างประเทศ

* เงื่อนไข ผู้มีเงินได้เกิดจากแหล่งนอกประเทศในปีภาษีที่ล่วงมาแล้วจะต้องเสียภาษีเงินได้ ในประเทศไทยก็ต่อเมื่อเข้าองค์ประกอบทั้ง 2 ประการ ดังต่อไปนี้
(1) ผู้มีเงินได้เป็น ผู้อยู่ในประเทศไทย ในปีภาษีนั้นชั่วระยะเวลาหนึ่งหรือหลายระยะเวลา รวมทั้งหมดถึง 180 วัน และ
(2) ผู้มีเงินได้ นำเงินได้นั้นเข้ามาในประเทศไทยในปีภาษีนั้นด้วย
ปล.ต้องเข้าเงื่อนไขทั้ง 2 ข้อ ถ้าข้อใดข้อหนึ่งถือว่ายังไม่ครบองค์ประกอบในการที่จะต้องเสียภาษี

สรุปแล้วคือ ถ้าเราอยู่ในประเทศไทยถึง 180 วัน หรือ 6 เดือน และ เราเอาเงินเข้าไทยในปีภาษีนั้นๆเราก็ต้องนำเงินนั้นมาคำนวณเพื่อเสียภาษี
เช่น เราได้เงินจาก Stock Photo ในปี 2560 โดยเราโอนเงินเข้าใน Paypal แล้วถอนเงินนั้นเข้าในไทยในปี 2560 ดังนั้นเราต้องเอาเงินมาคำนวน
แต่ ถ้าเราได้เงินในปี 2560 แล้วเราโอนเงินเข้า Paypal แต่เราไม่ถอนเงินนั้นเข้าไทยในปี 2560 แต่เราเก็บเงินทั้งก้อนนั้นไปถอนในปี 2561 เงินนั้นจะไม่ต้องเอามาคิดภาษี เพราะตาม ข้อ 2 (ด้านบน) บอกว่าเราต้องเอาเงินเข้าไทยในปีภาษีนั้นด้วย ถ้าเราโอนเงินเข้าไทยต่างปีภาษีก็ไม่จำเป็นต้องเอามาคิดภาษี

อ้างอิง http://www.rd.go.th/publish/552.0.html

4.โอนเงินเข้ามาไทยในปีเดียวกัน เราจะต้องเสียภาษีอย่างไรบ้าง

เมื่อโอนเงินเข้ามาในไทย ในปีภาษีเดียวกันกับที่เราทำงานได้เงินมา เราต้องยื่นเสียภาษีกับทางสรรพากร ภายใน 31 มีนาคม ในปีถัดไป แต่ถ้าเราไม่ได้โอนเงินเข้าไทยในปีภาษีนั้นๆ เราก็ไม่ต้องนำเงินได้ของ Stock Photo มารวมคิดภาษีกับเงินได้อื่นๆก็ยื่นภาษีเฉพาะเงินได้ในมาตราอื่นๆไป

โดยที่เงินได้จาก Stock Photo เป็นเงินได้ตามมาตรา 40(3) สามารถหักลดหย่อนได้ 50% แต่ไม่เกิน 100,000 บาท (ตามพระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 629) พ.ศ.2560) หลังจากนั้นก็หักค่าลดหย่อนต่างๆตามที่กรมสรรพากรกำหนด “การหักลดหย่อน http://www.rd.go.th/publish/557.0.html ” เมื่อหักลดหย่อนแล้วจะเอาเงินได้สุทธิมาคำนวณตามขั้นภาษีว่าต้องเสียภาษีกี่ %  ซึ่งเงินได้ของเราที่ได้จากต่างประเทศ มีกฏหมายอนุสัญญาภาษีซ้อน ซึ่งเราสามารถนำเงินภาษีที่เว็บ Stock Photo ต่างๆหักเราไปล่วงหน้านั้น มาหักลดหย่อนในส่วนของช่องภาษี ณ ที่จ่าย ที่ได้ชำระไปแล้ว

โดยเงินที่เรานำมาคิดภาษีก็คือ เงินในบัญชีที่เราได้รับโอนมาจาก Paypal หรือ Stock Photo โดยใช้เงินที่ได้รับโอนเป็นเงินไทย มาคำนวณเพื่อเสียภาษี ส่วนเงินภาษี ณ ที่จ่ายที่ถูกหักโดน Agency ต่างๆจะเป็นสกุลเงิน ดอลล่า หรือ ยูโร เราต้องแปลงออกมาเป็นเงินไทย แล้วถึงเอามาลดหย่อนจากเงินภาษีที่เราต้องเสีย โดยเราต้องมีเอกสารทั้งหมดจากทาง Agency ต่างๆด้วย ว่าเราถูกหักไปเท่าไรบ้าง
ตัวอย่างการหักภาษี ณ ที่จ่ายในประเทศ แคนาดา ฝรั่งเศส อังกฤษ จะหักไว้ที่ 5% ส่วนประเทศอเมริกาจะหัหไว้ที่ 15% แต่ถ้าเราไม่ได้เสียภาษีกับเงินก้อนนี้ก็ไม่สามารถเอาภาษี ณ ที่จ่ายมาหักออกจากเงินได้ประเภทอื่นนะครับ จะหักได้เฉพาะกรณีที่เรายื่นภาษีของเงินได้ใน 40(3) เท่านั้น

อ้างอิง http://www.rd.go.th/publish/1780.0.html
อ้างอิง http://www.rd.go.th/publish/765.0.html
อ้างอิง http://www.rd.go.th/publish/2662.0.html#article12
อ้างอิง http://www.rd.go.th/publish/2660.0.html#article25

5.เงินได้ที่ได้มาถ้าไม่ชำระในกำหนดเวลาหรือชำระไม่ถูกต้องจะมีความรับผิดอย่างไรบ้าง

ขึ้นชื่อว่าเงินได้ แม้ว่ายื่นไปแล้ว จะลดหย่อนหลายอย่างจนไม่ต้องเสียภาษี แต่เราก็ต้องยื่นภาษีให้ถูกต้องด้วยนะครับ แล้วถ้าเราได้เงินมา แต่ไม่ยื่นหละ ทางสรรพากรจะมีบทลงโทษอย่างไรบ้าง

1. กรณีไม่ชำระภาษีภายในกำหนดเวลา จะต้องเสียเงินเพิ่มอีกร้อยละ 1.5 ต่อเดือน (เศษของเดือนให้นับเป็น 1 เดือน) ของเงินภาษีที่ต้องชำระนับ
2. กรณีเจ้าพนักงานตรวจสอบออกหมายเรียก ถ้าชำระไม่ครบ ยังจะต้องรับผิดเสียเบี้ยปรับอีก 1 เท่าหรือ 2 เท่าของภาษีที่ต้องชำระแล้วแต่กรณี
3. กรณีไม่ยื่นแบบแสดงรายการ ภ.ง.ด.90, 91 หรือ 94 ภายในกำหนดเวลา ต้องระวางโทษปรับทางอาญาไม่เกิน 2,000 บาท
4. กรณีจงใจ แจ้งข้อความเท็จ หรือแสดงหลักฐานเท็จหรือฉ้อโกง เพื่อหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร มีโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือนถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000 บาท ถึง 200,000 บาท
5. กรณีเจตนาละเลยไม่ยื่นแบบแสดงรายการเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร มีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ

เห็นไหมครับ บทลงโทษถือว่าหนักเหมือนกัน และตอนนี้สรรพากรก็มีวิธีในการตรวจสอบเงินในหลายๆช่องทาง ถ้าทำให้ถูกต้องได้ เราก็ขายภาพ ทำงานของเราได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังว่าเราจะโดนปรับหรือเปล่าอีกด้วยนะครับ

อ้างอิง http://www.rd.go.th/publish/562.0.html

6.อย่าลืมกรอกแบบฟอร์มภาษีของ Agency ต่างๆด้วย

ตามเว็บบ Stock Photo หลายๆเว็บที่จะมีกฏหมายเรื่องภาษีซ้อนเข้ามาเกี่ยวข้อง เราจะต้องกรอกแบบฟอร์มการหักภาษี โดยถ้าเราไม่ได้กรอกเราจะโดนหักภาษี ณ ที่จ่ายถึง 30% แต่ถ้าเรากรอกแบบฟอร์ม จะถูกหักแค่ 5-15% เท่านั้นนะครับ ดังนั้นอย่าลืมไปกรอกแบบฟอร์มนี้ตามเว็บต่างๆด้วยนะครับ

7.ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้างเพื่อยื่นภาษี

เมื่อต้องยื่นภาษีเราต้องมีเอกสารต่างๆไว้ให้ครบ เผื่อกรณีที่สรรพากรเรียกตรวจเอกสาร เราจะได้สามารถแสดงหลักฐานต่างๆให้กับทางสรรพากรได้

ถ้าทำงานอื่นๆด้วย เช่น ทำงานประจำ หรือรับงานอื่นๆ ต้องใช้เอกสาร ทวิ50 หรือ ใบหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามที่บริษัทต่างๆออกให้
ส่วนการทำงานออนไลน์ จะใช้สมุดบัญชี ในการรับจ่าย เข้าออกของเงิน (แนะนำให้แยกเล่มของบัญชี เพื่อให้ง่ายต่อการคิดภาษี)
ขายภาพออนไลน์ ใช้สมุดบัญชีที่รับเงินโอนจากทาง Paypal (แนำนำให้แยกสมุดบัญชี) ใช้แบบฟอร์มภาษี ณ ที่จ่ายของแต่ละเว็บ เพื่อมาแสดงขอลดหย่อนในการจ่ายภาษี

ขอขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาเยี่ยมชม มีอะไรเสนอแนะได้ หรือจะคอมเมนต์พูดคุยกันด้านล่างได้เลยครับ ชอบก็แชร์บอกต่อเพื่อนไปลองพักที่นี่กันดูได้ครับ

สามารถเข้าไปพูดคุย ติดตามรีวิวใหม่ๆก่อนใคร หรือจะสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/homeontravel

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม